จ่อออกหมายจับ หมอปลอมคลินิก"พิมรี่พาย" พบหลอกลวงอีกหลายแห่ง

จ่อออกหมายจับ หมอปลอมคลินิก"พิมรี่พาย" พบหลอกลวงอีกหลายแห่ง

       ตำรวจ ปคบ.จ่อขอหมายจับหมอปลอม "คลินิกพิมรี่พาย" พบทำงานที่คลินิกอื่นด้วย เตือนผู้ประกอบการตรวจสอบแพทย์โดยละเอียด ชี้หากเกิดความเสียหายต้องรับผิดชอบให้ลูกค้า

    พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผกก.4 บก.ปคบ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง และหุ้นส่วนอิสคิวท์คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เข้าแจ้งความเมื่อวานนี้(16 ธ.ค.2564) พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้ โดยสรุปสามารถแบ่งกลุ่มผู้เสียหายได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มพิมรี่พายและคลินิก, กลุ่มแพทย์วิชาชีพที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้างสวมรอยทำใบประกอบวิชาชีพปลอม และกลุ่มคนไข้ที่เข้ารับการรักษา

    จากการสอบปากคำพิมรี่พาย ทราบว่า หญิงสาวรายนี้นำใบประกอบวิชาชีพปลอมมาสมัครงานกับคลินิก ในตำแหน่งเป็นแพทย์ศัลยกรรมที่รับฉีดโบท็อก และเป็นลักษณะงานพาร์ตไทม์ โดยจะถูกเรียกตัวมาให้ช่วยรักษาเฉพาะวันจันทร์ที่มีคนไข้จำนวนมากเท่านั้น ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน ขณะนี้คลินิกอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าหญิงสาวรายนี้ได้รักษาคนไข้รายใดไปแล้วบ้าง หากมีคนไข้รายใดที่เข้ารับการรักษากับหญิงสาวรายนี้แล้วเกิดความเสียหาย หรือผลกระทบจากการรักษาก็สามารถแจ้งความได้ทันที

    ส่วนการสอบปากคำแพทย์วิชาชีพตัวจริงที่ถูกแอบอ้าง เบื้องต้นเจ้าตัวอยู่ต่างประเทศ ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อให้ส่งหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศ และสอบปากคำญาติให้ยืนยันว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุ หมอตัวจริงไม่ได้อยู่ในประเทศไทย รวมทั้งสอบถามถึงเอกสารส่วนตัวว่าถูกนำไปปลอมแปลงได้อย่างไร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับโดยเร็วที่สุด เบื้องต้น เข้าข่ายความผิด 4 ข้อหาหลัก คือ "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ และเอาไปซึ่งเอกสารของผู้อื่น" ซึ่งตำรวจทราบชื่อและนามสกุลจริงของหญิงสาวรายนี้แล้ว ตรวจสอบประวัติไม่พบว่าเคยต้องคดีอาญา แต่มีข้อมูลว่านอกจากคลินิกของพิมรี่พายแล้ว หญิงสาวรายนี้ได้ไปทำงานที่คลินิกอื่นด้วย

    ทั้งนี้ ยืนยันว่าหญิงสาวรายนี้ ไม่ใช่คนเดียวกับที่เคยมีข่าวถูกจับกุมกรณีปลอมใบแพทย์เพื่อใช้สมัครงานเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่การกระทำความผิดเป็นลักษณะเดียวกัน โดยสันนิษฐานว่าต้นทางใบประกอบวิชาชีพปลอมอาจมาได้จากการที่หมอปลอมไปโพสต์ตามเว็บเพจหรือเว็บไซต์ อ้างกำลังจะเปิดคลินิก จึงประกาศรับสมัครแพทย์พยาบาลวิชาชีพ และให้เหยื่อที่สนใจส่งเอกสารหลักฐานและใบประกอบวิชาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมิจฉาชีพเหล่านี้จะนำใบประกอบวิชาชีพไปใช้ปลอมแปลง ใส่รูปของตัวเองแล้วนำไปสมัครตามคลินิกเสริมความงาม

    อย่างไรก็ตาม ผกก.4 บก.ปคบ. ฝากเตือนผู้ประกอบการคลินิกเวชกรรมว่าควรตรวจสอบทั้งประวัติและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพโดยละเอียด เพื่อป้องกันผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์มาสมัครงาน เพราะหากรักษาคนไข้แล้วเกิดอันตรายหรือความเสียหาย คลินิกจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วย ซึ่งตามกฎหมายเจ้าของคลินิกไม่สามารถปฏิเสธการเรียกร้องค่าเสียหายในคดีแพ่งได้ แต่ในคดีอาญาหากคลินิกไม่มีเจตนารับผู้ที่แอบอ้างมาทำงาน ก็จะตกเป็นผู้เสียหายด้วยและสามารถฟ้องร้องผู้แอบอ้างได้

    นอกจากนี้ ตำรวจได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ในฐานะผู้กำกับดูแลสถานเสริมความงาม ให้เพิ่มช่องทางการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้สะดวกมากขึ้น เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้าง